ในหลวงในดวงใจตามโครงการพระราชดำริ
โครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง คือ ปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงชี้แนวทางการดำเนินชีวิตให้แก่ปวงชนชาวไทยมาเป็นระยะเวลานาน ในช่วงตั้งแต่ก่อนการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ เพื่อมุ่งให้พสกนิกรได้ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างยั่งยืน มั่นคงและปลอดภัย ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามกระแสโลกาภิวัฒน์ อีกทั้งพระองค์ยังได้ทรงพระราชทานความหมายของ เศรษฐกิจพอเพียง เอาไว้เป็นภาษาอังกฤษว่า Sufficiency Economy ดังพระราชดำรัสที่ได้ทรงตรัสไว้เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2554
ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย ๓ คุณลักษณะ พร้อม ๆ กัน ดังนี้
- ความพอประมาณ: หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่นการผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมณ
- ความมีเหตุผล: หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ
- การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว: หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล
วัตถุประสงค์
เพื่อต้องการให้คนในหมู่บ้านรู้จักความพอเพียงเเละสร้างอาชีพในครัวเรือนเช่น การทำเกษตร นอกจากนี้ยังทำให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในเรื่องของปากท้องรวมไปถึงการหารายได้จากการค้าขายพืชผักสวนครัวหรือการเลี้ยงปลา ไก่ หมู เเละอื่นๆ
ปัจจัยที่ทำให้หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงประสบความสำเร็จ
1.ประชาชนมีความรัก ความสามัคคีให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมส่วนรวม
2.ครัวเรือนส่วนมากในหมู่บ้านมีการดำเนินกิจกรรรมการดำรงชีวิตตามแนววิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การปลูกผักสวนครัว เลี้ยงปลา
3.ประชาชนในหมู่บ้านมีความเข้มแข็ง พร้อมที่จะพัฒนาตนเอง
4.ประชาชนยอมปรับสภาพ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม หลังจากอบรมกิจกรรม
1.ประชาชนมีความรัก ความสามัคคีให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมส่วนรวม
2.ครัวเรือนส่วนมากในหมู่บ้านมีการดำเนินกิจกรรรมการดำรงชีวิตตามแนววิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การปลูกผักสวนครัว เลี้ยงปลา
3.ประชาชนในหมู่บ้านมีความเข้มแข็ง พร้อมที่จะพัฒนาตนเอง
4.ประชาชนยอมปรับสภาพ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม หลังจากอบรมกิจกรรม

1.ลดปัญหาความเป็นอยู่ในครัวเรือน
2.สร้างอาชีพให้ประชาชน
3.ทำให้ประชาชนมีเเนวทางเเก้ไขปัญหาความลำบากในเรื่องของการดำรงชีวิต เช่น การกินอยู่
ที่มา:https://dong04.wordpress.com