วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559



  ในหลวงในดวงใจตามโครงการพระราชดำริ   


    




   โครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง

เศรษฐกิจพอเพียง คือ ปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงชี้แนวทางการดำเนินชีวิตให้แก่ปวงชนชาวไทยมาเป็นระยะเวลานาน ในช่วงตั้งแต่ก่อนการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ เพื่อมุ่งให้พสกนิกรได้ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างยั่งยืน มั่นคงและปลอดภัย ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามกระแสโลกาภิวัฒน์ อีกทั้งพระองค์ยังได้ทรงพระราชทานความหมายของ เศรษฐกิจพอเพียง เอาไว้เป็นภาษาอังกฤษว่า Sufficiency Economy ดังพระราชดำรัสที่ได้ทรงตรัสไว้เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2554

ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย ๓ คุณลักษณะ พร้อม ๆ กัน ดังนี้
  1. ความพอประมาณ: หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่นการผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมณ
  2. ความมีเหตุผล: หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ 
  3. การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว: หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล


   วัตถุประสงค์
เพื่อต้องการให้คนในหมู่บ้านรู้จักความพอเพียงเเละสร้างอาชีพในครัวเรือนเช่น การทำเกษตร นอกจากนี้ยังทำให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในเรื่องของปากท้องรวมไปถึงการหารายได้จากการค้าขายพืชผักสวนครัวหรือการเลี้ยงปลา ไก่ หมู เเละอื่นๆ

ปัจจัยที่ทำให้หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงประสบความสำเร็จ 

1.ประชาชนมีความรัก ความสามัคคีให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมส่วนรวม
2.ครัวเรือนส่วนมากในหมู่บ้านมีการดำเนินกิจกรรรมการดำรงชีวิตตามแนววิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง เช่น  การปลูกผักสวนครัว  เลี้ยงปลา
3.ประชาชนในหมู่บ้านมีความเข้มแข็ง พร้อมที่จะพัฒนาตนเอง 
4.ประชาชนยอมปรับสภาพ  เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม   หลังจากอบรมกิจกรรม
      ประโยชน์ของโครงการ  

1.ลดปัญหาความเป็นอยู่ในครัวเรือน
2.สร้างอาชีพให้ประชาชน
3.ทำให้ประชาชนมีเเนวทางเเก้ไขปัญหาความลำบากในเรื่องของการดำรงชีวิต เช่น การกินอยู่


                                                                      



                                                                      ที่มา:https://dong04.wordpress.com





วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การศึกษาข้อมูลของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
การสื่อสาร หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดหรือเเลกเปลี่ยนสารหรือสื่อระหว่างผู้ส่งกับผู้รับ โดยส่งผ่านช่องทางนำสารหรือสื่อเพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันเเละกัน
 การสื่อสารข้อมูล (Data Communications) หมายถึง กระบวนการถ่ายโอนหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างผู้ส่งและผู้รับ โดยผ่านช่องทางสื่อสาร เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือคอมพิวเตอร์เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูล เพื่อให้ผู้ส่งและผู้รับเกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน



  องค์ประกอบระบบสื่อสารข้อมลู  


1.ข่าวสาร  เป็นข้อมูลที่ผู้ส่งทำการส่งไปยังผู้รับผ่านระบบการสื่อสาร ซึ่งอาจอยู่ในรูปเเบบดังต่อไปนี้
   1.1ข้อมูล
   1.2ข้อความ
   1.3รูปภาพ
   1.4เสียง

สื่อกลางการสื่อสารข้อมูล คือ
การสื่อสารข้อมูลจะมีสื่อกลางสำหรับเชื่อมโยงสถานีหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นตัวกลางให้ผู้ส่งข้อมูลทำการส่งข้อมูลไปยังผู้รับได้ เเบ่งออกเป็น 2 ประเภท



                                                            สื่อกลางทางกายภาพ 


สื่อกลางไร้สาย








วิธีการถ่ายโอนข้อมูล
      วิธีการถ่ายโอนข้อมูลเป็นวิธีส่งสัญญาณออกจากอุปกรณ์ส่งข้อมูลและการรับสัญญาณด้วยอุปกรณ์รับข้อมูล มีการถ่ายโอนอยู่ 2วิธี ดังนี้
การถ่ายโอนข้อมูลแบบขนาน เป็นการส่งข้อมูลออกที่ละ 1 ไบต์ หรือ 8บิต จากอุปกรณ์ส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์รับข้อมูล ดังนี้ สื่อกลางหรือสายสัญญาณระหว่างอุปกรณ์ส่งข้อมูลและอุปกรณ์รับข้อมูล จึงต้องมีช่องทางอย่างน้อง 8ช่องทางขนาน กันเพื่อให้สัญญาณไฟฟ้าผ่านไปได้ และระยะทางของสายสัญญาณแบบขนานไม่ควรยาวเกิน 100 ฟุตเพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาเนื่องจากความต้านทานของสาย เนื่องจากนี้อาจมีปัญหาที่เกิดจากกระไฟฟ้าสายดินส่งคลื่นไปก่อกวนการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆทำให้ผู้รับสัญญาณที่ผิดพลาดได้ การถ่ายโอนข้อมูลแบบอนุกรม  เป็นการส่งข้อมูลออกไปทีละ 1บิต ระหว่างอุปกรณ์ส่งและอุปกรณ์ข้อมูล
                                                                      เเหล่งที่มา:http://pawinee-ct-3.blogspot.com/
                                                   เเหล่งที่มา:  หนังสือเรียน             

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

โรงเรียนเซนต์โยเซฟนครสวรรค์


โครงงานเศรษฐกิจพอเพียง





ประวัติความเป็นมา

กรมประมงได้รับสนองพระราชดำริจัดโครงการฟื้นฟูปลาไทยเป็นโครงการต่อเนื่อง ดำเนินการสำเร็จในการเพาะเลี้ยงปลาไทยได้เกือบทุกชนิด โดยเฉพาะปลาไทยตามกาพย์เห่เรือชมปลาของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ ทั้ง ๑๗ ชนิด ได้แก่ ปลานวลจันทร์ ปลาคางเบือน ปลาตะเพียนทอง ปลากระแห ปลาแก้มช้ำ ปลาทุก ปลาน้ำเงิน ปลากราย ปลาหางไก่ ปลาสร้อย ปลาเนื้ออ่อน ปลาเสือ ปลาแมลงภู่ ปลาหวีเกศ ปลาชะเวง ปลาชะวาด และปลาแปบ ยกเว้นปลาหวีเกศซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว เนื่องจากมีแห่งเดียวในโลก คือ ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาลุ่มน้ำที่สำคัญของประเทศไทยในอดีตเคยเป็นแหล่งที่มีพันธุ์สัตว์น้ำต่างๆ เช่น ปลายี่สก ปลากา ปลาบ้า ปลาสวาย ผลจากการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมลง ไม่เอื้ออำนวยต่อการแพร่ขยายพันธุ์ของปลา และสัตว์น้ำจืดตามธรรมชาติ ประกอบกับการทำการประมงเกินกำลังผลิตของแหล่งน้ำ ตลอดจนภัยธรรมชาติ ส่งผลกระทบเสียหายอย่างรุนแรงต่อชนิด และปริมาณสัตว์น้ำจืดในแหล่งน้ำธรรมชาติ กล่าวคือ พันธุ์ปลาน้ำจืดของไทยบางชนิดได้สูญพันธุ์ไป นอกจากนี้พันธุ์ปลาน้ำจืดของไทยอีกหลายชนิดมีปริมาณลดลง จนกระทั่งอยู่ในสภาวะน่าวิตกต่อการสูญพันธุ์ โครงการฟื้นฟูทรัพยากรพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทย เป็นโครงการพระราชดำริโครงการหนึ่ง ซึ่งมุ่งเน้นการศึกษาวิจัยการเพาะเลี้ยงปลา และสัตว์น้ำจืดของไทยที่หายาก หรือมีโอกาสสูญพันธุ์ แล้วนำไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อทดแทนปริมาณสัตว์น้ำที่ถูกทำลาย ซึ่งการเพิ่มผลผลิตของปลาในแหล่งน้ำยังเป็นการเพิ่มรายได้ และเพิ่มปริมาณอาหารโปรตีนแก่ราษฎรผู้ยากไร้ในชนบท นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เกิดการเพาะเลี้ยงในเชิงการค้า ซึ่งจะสามารถเพิ่มผลผลิตปลาไทยจากการเลี้ยง และสามารถเพิ่มรายได้ตลอดจนสามารถคืนความหลากหลายของชนิดปลา ซึ่งจะรักษาสภาพความสมดุลตามธรรมชาติของแหล่งน้ำ อันจะนำมาซึ่งการใช้ทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนตลอดไป



                    วัตถุประสงค์

๑. เพื่อเพาะพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทย
๒. เพื่อศึกษาวิจัยการเพาะเลี้ยงปลาและสัตว์น้ำจืดของไทยที่หายากใกล้สูญพันธุ์
๓. เพื่อเพิ่มผลผลิตพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทยในแหล่งน้ำธรรมชาติ
๔. เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรเลี้ยงเป็นอาชีพสำหรับพันธุ์ปลาที่มีศักยภาพในการผลิตและเป็นที่ต้องการของตลาด
 ๕. เพื่ออนุรักษ์ และฟื้นฟูพันธุ์ปลาหายากของไทย



โดยสร้างโรงเรือนเลี้ยงเป็ดไว้เหนือบ่อเลี้ยงปลา สามารถระบายมูลสัตว์จากโรงเรือนลงสู่บ่อปลาได้โดยตรง
                                                               เเหล่งที่มา:http://www.fisheries.go.th